ชีวิตนอกจอ อนุวัต เฟื่องทองแดง

เปิดชีวิตนอกจอ อนุวัต เฟื่องทองแดง เป็นอีกหนึ่งนักข่าว ผู้ประกาศข่าวที่อยู่ในใจ เจ้าของฉายาอนุวัต จัดให้ เนื่องจากสไตล์การทำงานของเขานั้น สื่อสารแบบตรงไปตรงมา และหากต้องลงพื้นที่ในฐานะนักข่าว พิธีกร เขาก็ลุย ติดดิน ไปถึงแหล่งแบบจริงจัง ดังนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจเลย ว่าไลฟ์สไตล์ของผู้ประกาศข่าวคนนี้เพราะอะไรจึงเต็มไปด้วยการเดินทาง แวดล้อมไปด้วยธรรมชาติ

ซึ่งอนุวัตได้มีบ้านสวนที่เจ้าตัวนั้น ไว้มาพักผ่อนในช่วงวันหยุดจากการทำงาน โดยเป็นบ้านลอฟต์กลางน้ำ ซึ่งอนุวัติได้เผยว่า “บ้านหลังนี้เป็นความฝันมาตั้งแต่เด็ก ว่าฉันอยากมีบ้านริมน้ำ ตอนที่สร้างมีแต่คนถามว่า สร้างแล้วจะได้มาอยู่เหรอ เราเป็นคนที่อยากฝันแล้วทำ ใช้ชีวิตเลย จากที่ไม่ค่อยได้กลับมา กลายเป็นว่าตอนนี้ได้กลับบ้านทุ กอาทิตย์ ว่างชั่วโมงสองชั่วโมงก็มา ขอให้ได้มาเห็นแม่ มาดูบ้าน ดูต้นไม้ มันก็อบอุ่นใจ”

โดยบ้านสวนของอนุวัตนั้น มีการแบ่งโซนอย่างชัดเจน “ก่อนสร้างบ้าน เราวางแผนการใช้ที่ดินทุ กตารางนิ้วให้เกิดประโยชน์มากที่สุด เราแบ่งไว้หมดว่าตรงนี้เป็นโซนบ้านตรงนี้ เป็นโซนสวน จุดเชื่อมต่อสวนกับบ้านต้องมีต้นไม้อะไร ตอนยังไม่มีเงินทำบ้านก็ถางดินก่อน แล้วก็เอาไม้ใหญ่มาลงไว้ เพื่อที่วันที่สร้างบ้านเสร็จ ไม้จะโตให้ร่มเงาพอดี แปลงผักทำไว้ตรงนี้ แม่จะได้ไม่ต้องเข้าไปตรงสวนผักอีกด้านหนึ่งที่อยู่ไกล คนในบ้านจะได้เห็นว่าแม่อยู่ตรงนี้นะ

เราก็ทำสวน ตั ดต้นไม้อยู่ใกล้ๆ” ต่อมาเมื่อลัดเลาะไปด้านหลังบ้าน จะได้เห็นศาลาริมคลอง ซึ่งเป็นที่พักกายใจรับลมเย็นสบาย นอกจากนี้โซนผลไม้นั้น มาจากทั้ง 4 ภาคเลยทีเดียว เรียกว่าไปจังหวัดไหนก็มีคนใจดีฝากต้นไม้ติดไม้ติดมือมาให้เสมอ สวนผลไม้ผสมแห่งนี้มีไม้ผลแทบทุ กประเภท ทั้งกระท้อน มะม่วง ชมพู่ มะละกอ มังคุด ฝรั่ง ที่ให้ผลงามขนาดที่กินไม่ไหวจนต้องนำไปข าย และอนุวัตได้เผยว่า “พอเราปิ๊งไอเดียว่าต้องมีเล้าไก่ ก็วาดแปลนแบบชาวบ้านนี่แหละ แล้วก็ไปเดินดูในโรงเก็บของว่ามีเศษเหล็ก เศษไม้อะไรที่มีอยู่ เราก็จับนั่นผสมนี่ หลังคาเก่าก็มี

แล้ววาดไว้ให้เขาหมด วงเล็บด้วยว่า ขอไม่แพง แล้วก็ให้พี่สาวช่วยคุมคนงานมาทำ มูลค่าเล้าไก่ก็ห้าพันบาท ซึ่งเป็นค่าแรงคนงาน” จากเด็กไม่เอาไหน สู่อนุวัต จัดให้ “หนึ่งคือโอกาส คนเก่งมีเยอะมาก เก่งกว่าเราทุ กคน สองคือ ตัวเราที่มีความพยายาม มีความอดทนมุ่งมั่น เราก็เต็มที่และสนุก เหนื่อยแค่ไหนก็สนุกนะ”

ปริมาณของ “ความสุข” ไม่ได้ขึ้นอยู่กับจำนวนของ “สิ่งดี ๆ” ที่เราได้รับ แต่อยู่ที่ “มุมมอง” ของเราที่มีต่อ “สิ่งเหล่านั้น” ต่างหาก