ป้าแมวข้าวแกง ครัวใจดีของนักสู้ชีวิต

“สุนทรี ศรเจริญ” แม่ค้าใจดีแห่งซอยรามบุตรีย่านถนนข้าวสาร ยอมตรึงราคา 20 บ าทไว้นับ 10 ๆ ปีไม่มีขึ้น เพื่อให้คนหาเช้ากินค่ำเข้ามาสู้ชีวิตในกรุงเทพฯ ได้อิ่มท้องและมีแรงสู้ในวันใหม่

โดยร้านป้าแมวข้าวแกง 20 บ าท เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 07.00-15.00 น. ในวันอังคาร-วันอาทิตย์ บริเวณซอยรามบุตรีย่านถนนข้าวสาร ด้วยเมนูกว่า 20 อย่าง ทั้ง แกงเขียวหวาน แกงส้ม แกงพะโล้ ผัดวุ้นเส้น ฯลฯ จากวัตถุดิบแบบสดใหม่ส่งตรงจากตลาดมีมาตรฐานในทุ กวันๆ แม้ราคาจะในราคาข า ยเพียง 20 บ าทเท่านั้น

“บางคนเขาก็ให้บอกว่าป้าขึ้นได้แล้วปีเนียเป็น 25 บ าท แต่ป้าก็ไม่ขึ้นเพราะสงสารคนกินที่หาเช้ากินค่ำ ยิ่งเศรษฐกิจไม่ดีตอนนี้ เราก็ไม่ถึงขนาดจะต้องเอาอะไรมาก ได้นิดหน่อยก็พอ เขาอยู่ได้เราก็อยู่ได้” ป้าแมว หรือ “สุนทรี ศรเจริญ” แม่ค้าใจดีเริ่มต้นเล่าด้วยรอยยิ้มมุมปากอย่างเรียบง่าย ซึ่งก็คงเช่นเดียวกับเรื่องราวการช่วยเหลือสังคมของเธอที่แม้จะเริ่มจากเล็กๆ แต่ก็เป็นสิ่งดีๆ ที่ช่วยขับเคลื่อนสังคมให้น่าอยู่ขึ้นในทุ กวัน

ห็นใจคนหาเช้ากินค่ำ”

และ ‘เข้าอกเข้าใจของคนสู้ชีวิต’ ที่ยอมอดมื้อกินมื้อดูแลครอบครัวที่รักอย่างสุดความสามารถ ดังนั้นเมื่อหลังเข้ามารับช่วงกิจการต่อเธอจึงค้าเอากำไรเพียงน้อยนิดเริ่มจาก 10 บ าท เป็น 12 บ าท มาเป็น 15 บ าท และ 20 บ าทเมื่อ 10 กว่าปีก่อนกระทั่งจนถึงวันนี้ แม้ว่าร้านรวงอื่นๆ ในถนนข้าวสารย่านท่องเที่ยวต่างดีดค่าอาหารอิ่มต่อมื้อแทบจะเป็นกว่าเกือบหลักร้อยบ าท

“เราพออยู่ได้แล้ว ลูกๆ เรียนจบมีงานทำ ภาระไม่มี บ้านก็ไม่ต้องส่งแล้ว ก็โอเค ก็ไม่ถึงขนาดจะต้องเอาอะไรมาก ได้นิดหน่อยก็พอ ให้พออยู่ดูแลตัวเองได้ อย่างที่บอกเศรษฐกิจตอนนี้ไม่ดีด้วย เราอยู่ได้เขาก็อยู่ได้

“มันเป็นความรู้สึกเข้าอกเข้า บางคนเราดูแลเขาร ายได้ไม่มากเลยมากินที่ร้านเรา เราก็โป๊ ะให้เยอะๆ ให้เขาอิ่ม เพราะเรานึกถึงสมัยก่อนของเรา  ของแม่ ของพี่ๆ น้องๆ ครอบครัวเรากว่า 6-7 คน ที่กว่าจะมีวันนี้ได้”

สดใหม่ ส่งตรง ‘ด้วยใจ’ หลังทำตามปณิธานในการเป็นแม่ค้าข้าวแกงกำไรใจ ในช่วง แพ ร่ร ะบ าดที่ผ่านมาป้าแมวยังได้ผุดไอเดีย ‘ข้าวแกงมาร์เก็ต’ โดยการนำแกงถุงต่างๆ ภายในร้านบรรจุลงในรถเข็นซุปเปอร์มาร์เก็ตตามห้างสรรพสินค้าออกข า ยในราคา 20 บ าทเท่าเดิม เพื่อให้คนบริเวณพื้นที่โดยย่านบางลำพูได้อิ่มท้องในราคาย่อมเยา

“พอโร ค ระบ าดมา คนน้อยลง เราข า ยได้น้อยลงลูกจ้ างก็เสี่ยงที่จะได้น้อย หรือตกงานหากเราข า ยต่อไม่ไหว ก็เลยไปเอารถเข็นมาเพราะมันใส่ได้เยอะ ให้เขาเอาไปเข็นข า ยเพิ่มร ายได้ให้เขาจากที่ตัก ที่ทำ กันอย่างเดียวหน้าร้าน”

แต่ไอเดียข้าวแกงมาร์เก็ตไม่เพียงพยุงลูกน้องในร้านให้อยู่ได้ ยังเป็นการช่วยกระจายอาหารราคาถูกของตัวเองไปถึงมือคนหาเช้ากินค่ำคนอื่นๆ ที่ไม่รู้จัก ได้ผ่านมาแลวหิวได้อิ่มท้อง มีแรงสู้ในวันพรุ่งนี้กันต่อไป

“รถเข็นก็เริ่มเข็นกันตั้งแต่ 9 โมงเช้ารอบแรก รอบสอง 11 โมง รอบสามช่วง 13.00น. มันก็ช่วยให้กระจายให้คนที่เขาทำงานหาเช้ากินค่ำได้สินค้าราคาถูก เพราะบางคนก็ยังไม่รู้ หน้าร้านเราไม่ได้ติดป้ายข า ย 20 บ าท ก็ไปซื้อรถเข็นมาและก็เอามาติดป้ายออกเข็นข า ย”

โดยเมนูที่มีก็เป็นแบบอย่างเช่นเดียวกับหน้าร้านบริเวณซอยรามบุตรี ช่วง 4 แยกก่อนถึงถนนข้าวสารที่เปิดข า ยข้าวแกงกว่า 20 เมนู ทั้ง แกงเขียวหวาน แกงส้ม แกงพะโล้ ผัดวุ้นเส้น ฯลฯ และในราคา 20 บ าทไม่มีคิดเพิ่ม

“ใจคนทำอาหารคือมันถูกแล้วมันก็ต้องอร่อยด้วย เราข า ยถูกแต่วัตถุดิบของเราก็สดใหม่ทุ กวันทุ กอย่าง หมู ไก่ ปลา ซื้อวันต่อวัน ผักก็เหมือนกันซื้อวันต่อวัน ใช้เกรดทำอาหารเหมือนที่เราทำกิน พริกก็ใช้พริก ใบผักก็ผักสด”

จะให้เลิกทำฝันไปไม่มีทาง “ป้าก็จะทำไปเรื่อยๆ เพราะมันไม่เหลือบ่ากว่าแรง ข า ยแบบนี้หลายคนอาจจะคิดว่าอยู่ไม่ได้ แต่มันอยู่ได้ เนื่องจากมันมีบางอย่างแพงเช่นผักวันนี้แพง แต่หมูราคาไม่ได้ขึ้น อีกวันผักลด หมูก็ลด มันก็ถั่วๆ เฉลี่ย ได้อันนั้นมาโป๊ะอันนี้” ป้าแมวยิ้มเมื่อเอ่ยถึงตรงนี้ เพราะแม้ว่าจะเหนื่อยล้าแรงกายบ้างไปตามสังขารอายุในวัยล่วง 60 ปี เข้าไปแล้ว แต่เมื่อใดที่เห็นรอยยิ้มหรือได้ยินเรื่องราวความสำเร็จในชีวิตของลูกค้าที่ขยับขึ้นก็พลันมีกำลังขึ้นมา

“ถ้าถามาว่าเหนื่อยไหม มันก็มีบ้างที่เหนื่อยกาย มีล้า ท้อ แต่พอกลับไปแล้วไปดูหนัง ฟังเพลง เดียวมันก็หายแล้ว ดูทีวีดูอะไรมันก็หาย แต่เรากลับไม่เหนื่อยใจ เราสุขใจ เพราะลูกค้าหลายๆ คนมาทำงาน มาสู้ชีวิตตั้งแต่เด็กๆ รุ่นๆ ก็กลายเป็นลูกเป็นหลาน เป็นน้อง

“วันหนึ่งเราเห็นเขายืนได้ เขาประส บความสำเร็จ เขามีชีวิตที่ดี ป้าเห็นเขาแล้วมันก็มีความสุข (ยิ้ม) มันก็ทำให้เราสุขภาพดีด้วยนะ ป้าเชื่อเรื่องของกาใรให้ ให้แล้วเราจะได้รับ ไม่ว่าทางใดหรือทางหนึ่งป้าคิดแบบนี้ ป้าก็เลยไม่คิดจะขึ้นราคา 20 บ าท” เธอกล่าวทิ้ งท้ าย