เป็นอีกหนึ่งตำนานนักข่าวที่โลกเเล่นอยู่ในวงการมาเนิ่นนานอย่าง “พิศณุ นิลกลัด” ที่เชื่อว่ารุ่นพ่อรุ่นเเม่ ปูย่าตายาย ไม่มีใครไม่รู้จักเขา หายหน้าหายตาจากจอทีวีไปนาน สำหรับผู้ประกาศข่าวชื่อดั ง
เขาเป็นพิธีกรดั งจากรายการ สะเก็ดข่าว ที่เราคุ้นหูกันดีตั้งเเต่สมัยเด็ กๆ ที่ปัจจุบันได้ตัดสินใจหันไปใช้ชีวิตเรียบง่าย
ในวัยเกษียณที่บ้านสวนอย่างมีความสุข และวันนี้เราจะพาไปชมบ้านสวนของอดีตผู้ประกาศข่าวชื่อดั งค นนี้ค่ะ
สำหรับ “พิศณุ นิลกลัด” เป็นพิธีกร อดีตผู้ประกาศข่าวชื่อดั งที่มีสไตล์การอ่านข่าวไม่ธรรมดา สำหรับ พิศณุ นิลกลัด ปัจจุบันอายุได้ 68 ปีแล้ว
ก็คงยังเห็นหน้าเห็นตาอยู่บ้างตามร ายการของทางช่อง 3 เป็นพิธีกรประจำรา ยการ ข่าวนอกลู่ โลดแล่นอยู่ในวงการมานานหลายปีมากๆ เลยทีเดียว
ซึ่ง พิศณุ เข้าสู่แวดวงสื่อมวลชนสายการเมือง และเป็นบรรณาธิการข่าวกีฬา หนังสือพิมพ์สยามรัฐ ในปี พ.ศ. 2520 จากนั้นจึงย้ายไปสังกั ดช่ อง 7 สี
โดยเป็นทั้งบรรณาธิการข่าวการเมือง, ข่าวกีฬา, ผู้ประกาศข่าว และผู้บรรยายกีฬาด้วย มาจนถึงปัจจุบัน โดยพิศณุมีความสามารถบรรยายกีฬา
ได้หลายประเภท เช่น มวยสากล เทนนิส รวมทั้งเป็นผู้บรรยายกอล์ฟเป็นคนแรกๆ ในประเทศไทย พิธีกรร ายการกอล์ฟ กูรู, คอข่าว, ฟ้ามีตา
พิศณุได้ก่อตั้ง บริษั ท สปอร์ตทิปส์ จำกั ด เพื่อผลิตร ายการสั้นๆ เกี่ยวกับกีฬา และมีน้องชายแท้ๆ คือ แอ๊ดดี้ วีรศักดิ์ นิลกลัด
ซึ่งยังคงเป็นผู้บรรยายกีฬาของช่องพีพีทีวี ตั้งแต่ 1 มกราคม พ.ศ. 2556 พิศณุ ย้ายไปอยู่ร่วมกับครอบครัวข่าว 3 ในสังกั ดฝ่ายข่าว
สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 โดยเป็นพิธีกรข่าวในร ายการข่าวนอกลู่ ซึ่งออกอากาศทุกวันจันทร์ถึงวันพฤหัสบดี
หลังข่าวในพระราชสำนักและร ายการรวมเล่าข่าวสนุก ทุกวันหยุดนักขัตฤกษ์ พร้อมทั้งนำร ายการของ บจก.สปอร์ตทิปส์ ที่เคยออกอากาศทางช่อง 7 สีคือ
สปอร์ตกูรู และเสน่ห์กีฬา มาออกอากาศทางไทยทีวีสีช่อง 3 เรียกได้ว่าประวัติไม่ธรรมดา ปัจจุบันมีชีวิตที่เรียง่าย โดยบ้านของเขานั้นเน้นเป็นบ้าน 1 ชั้น มีพื้นที่เอาไว้ทำผัดสวนครัว เรียกได้ว่าเป็นชีวิตที่เรียบง่ายสุ ด
วึ่งใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัว และเลี้ยงสุนัขไว้หลายตัว ต้องบอกว่าเขานั้นรักสัตว์มากเลยทีเดียวรวม ถึงยามว่างก็มักจะไปตีกอล์ฟ บ้านเขาล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติสุดแถมยังบรรยากาศดีมากอีกด้วย
ถือเป็นบุคคลตัวอย่างเเม้ว่าตนนั้นจะมีทรัย์สินมากมาย เเต่ก็ยังใช้ชีวิติเรียบง่าย ไม่ฟุ่มเฟือน สมเเล้วค่ะที่เป็นผู้ประกาศข่าวที่ใครๆ ต่างก็รักใคร่
